แนวข้อสอบ แผนกปฏิบัติการ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม

1 ปีที่ผ่านมา

โดย เจ้าของร้าน

แนวข้อสอบ ความรู้เบื้องต้นทางรัฐศาสตร์

คำสั่ง จงเลือกข้อที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว

เรื่อง 1: สาขาวิชาการเมืองการปกครอง (15 ข้อ)

1. เมื่อมีการ”ยุบสภา” ต้องกำหนดวันเลือกตั้งทั่วไปภายในระยะเวลากี่วัน

ก. 45 - 60 วัน ข. 60 - 75 วัน

ก. 60 - 90 วัน ง. 90 - 150 วัน

จ. 180 - 365 วัน

ตอบ ก. 45 - 60 วัน

- จากรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 108 วรรคสอง ระบุไว้ว่า “การยุบสภาผู้แทนราษฎรให้กระทำโดยพระราชกฤษฎีกา ซึ่งต้องกำหนดวันเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่เป็นการเลือกตั้งทั่วไปภายในระยะเวลาไม่น้อยกว่า สี่สิบห้าวันแต่ไม่เกิน หกสิบวันนับแต่วันยุบสภาผู้แทนราษฎร และวันเลือกตั้งนั้นต้องกำหนดเป็นวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร”

2. ในกรณีที่เกิดภัยพิบัติร้ายแรงจากภัยธรรมชาติ นายกรัฐมนตรีสามารถประกาศใช้กฎหมายในข้อใด

ก. พรก. การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน

ข. พรบ. การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร

ค. พรบ. ป้องกันภัยทางธรรมชาติ พ.ศ.2552

ง. ถูกทั้งสามข้อ

จ. ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ ก. พรก. การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน

- จากโจทย์ Key word สำคัญอยู่ตรงคำว่า “นายกรัฐมนตรี” ซึ่งนายกรัฐมนตรีคือฝ่ายบริหาร สามารถออกกฎหมายในตัวเลือกข้อนี้ได้เพียงฉบับเดียวคือ พระราชกำหนด (พรก.) และนอกจากนี้ พรก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ยังหมายบังคับใช้รวมถึงการเกิดภัยพิบัติร้ายแรงจากธรรมชาติได้อีกด้วย

3. ใครคือประธานศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองคนปัจจุบัน

ก. นายดิเรก อิงคนินันท์ (ประธานศาลฎีกา)

ข. นางพฤษภา พนมยันตร์ (ประธานศาลฎีกา แผนกคดีเยาวชน)

ค. นายธนสิทธิ์ นิลกำแหง(ประธานศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง)

ง. นายประทีป เฉลิมภัทรกุล (อดีตหัวหน้าองค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกา)

จ. นายไพโรจน์ วายุภาพ (ประธานศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง)

ตอบ จ. นายไพโรจน์ วายุภาพ (ประธานศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทาง

การเมือง)

4. รัฐบาลนางสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้รับฉายาจาก จากสื่อ ว่าอะไร ในปี 2556

ก. รัฐบาลขิงแก่ (=รัฐบาลสุรยุทธ์) *ฤาษีเลี้ยงเต่า= รัฐบาล สุรยุทธ์*

ข. รัฐบาลเต่า (หรือรัฐบาลเต่าลายคราม =รัฐบาลอภิสิทธิ์) *ฤาษีเลี้ยงลิง= รัฐบาล มรว.เสนีย์*

ค. รัฐบาลลิ้มไพร่(=รัฐบาลยิ่งลักษณ์)

ง. รัฐบาลผีบุญร.ศ.232 (กลุ่ม กกปส.)

จ. รัฐบาลสวยดีเลห์ (choice หลอก)

ตอบ ค. รัฐบาลดาวดับ (=รัฐบาลยิ่งลักษณ์)

5. ศาลตามรัฐธรรมนูญฉบับ ปี 2550 มีทั้งหมดกี่ประเภทอะไรบ้าง

ก. 2 ประเภท [ศาลแพ่ง ศาลอาญา] = subset ของศาลยุติธรรม

ข. 3 ประเภท [ศาลชั้นต้น ศาลอุธรณ์ ศาลฎีกา] = ลำดับชั้นของศาลยุติธรรม

ค. 4 ประเภท ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลยุติธรรม ศาลปกครอง ศาลทหาร

ง. 5 ประเภท [ศาลแพ่ง ศาลอาญา ศาลเยาวชน] = subset ของศาลยุติธรรม ศาลทหาร ศาลรัฐธรรมนูญ

จ. ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ ค. 4 ประเภท ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลยุติธรรม ศาลปกครอง ศาลทหาร

ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ศาลมี 4 ประเภท คือ

1.ศาลรัฐธรรมนูญ

2.ศาลยุติธรรมมี 3 ชั้น คือ ศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกา เว้นแต่ที่มีบัญญัติเป็นอย่างอื่นในรัฐธรรมนูญหรือตามกฎหมายอื่น

* ศาลชั้นต้น ได้แก่ ศาลแพ่ง ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ศาลแพ่งธนบุรี ศาลอาญา ศาลอาญากรุงเทพใต้ ศาลอาญาธนบุรี ศาลจังหวัด ศาลแขวง และศาลยุติธรรมอื่นที่พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลนั้นกำหนดให้เป็นศาลชั้นต้น เช่น ศาลเยาวชนและครอบครัว ศาลแรงงาน ศาลภาษีอากร ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ ศาลล้มละลาย

* ศาลอุทธรณ์ ได้แก่ ศาลอุทธรณ์ และศาลอุทธรณ์ภาค

* ศาลฎีกา ซึ่งเป็นศาลยุติธรรมสูงสุด ที่มีอยู่เพียงศาลเดียว (ตรงสนามหลวง)

3.ศาลปกครอง เป็นศาลที่ใช้ระบบไต่สวน โดยในแต่ละคดีจะมีการพิจารณาโดยองค์คณะของ ตุลาการ ต่างจากศาลยุติธรรมซึ่งใช้ระบบกล่าวหา ศาลปกครองแบ่งออกเป็น "ศาลปกครองชั้นต้น" และ "ศาลปกครองสูงสุด"

4.ศาลทหาร

6. นโยบายรัฐบาลพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีกี่ด้านอะไรบ้าง

ก. 11 ด้าน ค. 10 ด้าน

ข. 15 ด้าน ง. 14 ด้าน จ. 16 ด้าน

ตอบ ก. 11 ด้าน

นโยบายรัฐบาล 11 ด้าน คือ

1) การปกป้องเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์

2) การรักษาความมั่นคงของรัฐและการต่างประเทศ

3) การลดความเหลื่อมล้ำของสังคมและการสร้างโอกาสการเข้าถึงบริการของรัฐ

4) การศึกษาและเรียนรู้ การทะนุบำรุงศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม

5) การยกระดับคุณภาพบริการด้านสาธารณสุข และสุขภาพของประชาชน

6) การเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ

7) การส่งเสริมบทบาทและใช้โอกาสในประชาคมอาเซียน

8) การพัฒนาและส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัยและพัฒนา และนวัตกรรม

9) การรักษาความมั่นคงของฐานทรัพยากร และการสร้างสมดุลระหว่างการอนุรักษ์กับการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน

10) การส่งเสริมการบริหารราชการแผ่นดินที่มีธรรมาภิบาลและการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในภาครัฐ

11) ปรับปรุงกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม

7. ข้อใดต่อไปนี้เป็นตำแหน่ง “ข้าราชการการเมือง”

ก. ~~ปลัดกระทรวง~~ (ข้าราชการประจำ) เลขานุการรัฐมนตรี (ข้าราชการการเมือง)

ข. ~~อธิบดีกรม~~ (ข้าราชการประจำ) เลขาธิการนายกรัฐมนตรี (ข้าราชการการเมือง)

ค. ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี (ข้าราชการการเมือง) ~~เลขาธิการคณะรัฐมนตรี~~ (ข้าราชการประจำ)

ง. ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรี (ข้าราชการการเมือง) โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (ข้าราชการการเมือง)

จ. ถูกทั้ง ค. และ ง.

ตอบ ง. ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรี (ข้าราชการการเมือง) โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

(ข้าราชการการเมือง)

- หัวหน้าสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีนั้นให้มีเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเป็นข้าราชการประจำเทียบเท่าปลัดกระทรวง ส่วนตัวเลือกข้ออื่น มีปลัดกระทรวง และอธิบดี เป็นข้าราชประจำอย่างที่ทราบกันดี ดั้งนั้นจึงตอบข้อ ง. ครับ เพราะไม่ว่าจะเป็นตำแหน่ง เลขานุการรัฐมนตรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ล้วนแต่เป็นข้าราชการการเมืองทั้งสิ้น

8. ใครเป็นผู้จัดทำ “แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ”

ก. คณะรัฐมนตรี

ข. สำนักงานคณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

ค. สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

ง. รัฐสภา

จ. ไม่มีข้อใดถูก

ตอบ ข. สำนักงานคณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

ข้อนี้ออกจะงงๆ ตัวเลือกใกล้เคียงกันมาก ก่อนอื่นเราต้องมีความรู้ความเข้าใจก่อนว่า

-สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือชื่อเดิมว่า สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจแห่งชาติ หรือ สภาพัฒน์ เป็นหน่วยงานภายใต้สังกัดของสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ร่างและผู้จัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

-สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือตัวย่อ (สศ.) เป็นองค์กรอื่นตาม รธน 50 มีหน้าที่ให้คาปรึกษาและ ข้อเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีในปัญหาต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง / แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและแผนอื่นตามที่กฎหมายบัญญัติ

ต้องให้สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ให้ความเห็นก่อนพิจารณาประกาศใช้ (จากรัฐธรรมนูญ 2550 ตามมาตรา 258 )

ทั้งสองหน่วยงานนี้เป็นคนละหน่วยงานกันครับ

นั่นหมายความว่า รธน 50 กำหนดให้สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ มีหน้าที่ให้คำปรึกษาและความเห็นแผนพัฒนาก่อนประกาศใช้ครับ แต่ผู้ร่างแผนพัฒนาฯ คือ สำนักงานคณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติครับ

โจทย์ข้อนี้ถามว่า ใครคือผู้จัดทำ ดังนั้นต้องตอบข้อ ข. สำนักงานคณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

9. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย(ฉบับชั่วคราว) ปี 2557 มีทั้งหมดกี่มาตรา

ก. 40 มาตรา ค. 48 มาตรา

ข. 30 มาตรา ง. 47 มาตรา

จ. 50 มาตรา

ตอบ ค. 48 มาตรา

10. Grassroots Keynesianism คือนโยบายสมัยใครเป็นนายกรัฐมนตรี

ก. นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ข. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

ค. พ.ต.ท ทักษิณ ชินวัตร ง. นายสมัคร สุนทรเวช

จ. นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์

ตอบ ค. พ.ต.ท ทักษิณ ชินวัตร

-ลัทธิเคนเชียนแบบรากหญ้า (grassroots Keynesianism) คือ การคิดใหม่ทำใหม่ เชิงนโยบาย นำมาใช้เป็นนโยบายในสมัย พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจ

ข้อนี้จริงๆแล้วไม่ยาก เราลองแปลคำว่า Grassroots ดูซิ คำว่า “รากหญ้า” มีอยู่คนเดียวนั่นแหละ

แนวข้อสอบการบริหารและการจัดการ

คำสั่ง จงเลือกคำตอบข้อที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว

1.       “การบริหารเป็นกิจกรรมของกลุ่มบุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ร่วมมือกันทำกิจกรรมเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ร่วมกัน โดยการใช้กระบวนการ และทรัพยากรที่เหมาะสม” ใครให้ความหมาย
ก. Peter F. Drucker                                           ข. Harold Koontz
ค. Herbert A. SSimon                                       ง.   วิจิตร ศรีสอ้านและคณะ
จ.   ธงชัย สันติวงษ์
ตอบ ง.    วิจิตร ศรีสอ้านและคณะ

2.       ข้อใดกล่าว ไม่ถูกต้อง สำหรับทฤษฎีต่างๆที่เข้ามาสู่การบริหาร?
ก.   มีผู้คิดค้นทฤษฎีต่างๆมากมาย
ข.   ยังไม่มีทฤษฎีใดที่สามารถช่วยอธิบายปรากฏการณ์ในการบริหารงานหมด
ค. ต้องใช้หลายทฤษฎีในการแก้ปัญหาหนึ่งๆ
ง. ทฤษฎีซึ่งมีหลัดการดีอาจไม่สามารถแก้ปัญหาเล็กน้อยได้
จ. ทฤษฎีซึ่งมีหลักการดีสามารถแก้ปัญหาเล็กน้อยหรือปัญหาใหม่ได้
ตอบ    จ. ทฤษฎีซึ่งมีหลักการดีสามารถแก้ปัญหาเล็กน้อยหรือปัญหาใหม่ได้

3.       Knoontz กล่าวว่าทฤษฎีหรือหลักในการบริหารงานจะดีหรือมีประสิทธิภาพควรคำนึงถึงเรื่องใด
ก.   การเพิ่มประสิทธิภาพของงาน                         ข. ตรงกับความต้องการของสังคม
ค.   ช่วยวิเคราะห์งานเพื่อปรับปรุงพัฒนา               ง.   ก้าวทันโลกที่กำลังพัฒนา
จ. ถูกทุกข้อ
ตอบ จ. ถูกทุกข้อ

4.       การบริหารเริ่มมีความหมายชัดเจนและรัดกุมขึ้นในศตวรรษที่เท่าไร?
ก.   ศตวรรษที่ 10                                              ข. ศตวรรษที่ 13
ค.   ศตวรรษที่ 15                                              ง.   ศตวรรษที่ 18
จ. ศตวรรษที่ 20
ตอบ ง.   ศตวรรษที่ 18

5. “การบริหาร หมายถึง การบริหารงานของรัฐ (Public Administration) และคำว่า Administration หมายถึง การบริหารเกี่ยวกับภารกิจของรัฐ ส่วนคำว่า Management หมายถึงการบริหารเกี่ยวกับภารกิจของเอกชน” ใครเป็นผู้ให้ความหมาย?
ก. กลุ่มนักรัฐประศาสนศาสตร์ซึ่งเรียกตัวเองว่า Cameralist
ข. นักบริหารชาวสหรัฐอเมริกาที่เรียกว่า Federalist
ค. Henry Ford
ง. Frederick W.Talor
จ. Max Weber
ตอบ ข. นักบริหารชาวสหรัฐอเมริกาที่เรียกว่า Federalist

6.       บุคคลสำคัญในข้อใดไม่จัดอยู่ในยุคของการบริหารยุค Classical?
ก. Woodrow Wilson                                         ข. Max Weber
ค.   Robert Owen                                              ง.   Henri Fayol
จ. Luthur Gulick
ตอบ ค.   Robert Owen

7.       บทความเรื่อง The Study of Public Administation มีแนวคิดที่ต้องการแยกการบริหารของรัฐออกมาจากการเมือง ใครเป็นผู้เขียน ?
ก. Woodrow Wilson                                         ข. Max Weber
ค.   Robert Owen                                              ง.   Henri Fayol
จ. Luthur Gulick
ตอบ ก. Woodrow Wilson

8.       ผู้เสนอความคิดเกี่ยวกับการบริหารราชการ ( Bureaucracy) ถือว่าเป็นบิดาทางด้านบริหารราชการ คือใคร?
ก. Frank T. Goodnow                                       ข. Leonard D. White
ค. Max Weber                                                  ง. Frederick W. Talor
จ. Henri Fayol
ตอบ ค. Max Weber

9.       POSDCORB เป็นแนวคิดของผู้ใด?
ก. Luthur Gulick                                              ข. Lyndoll Urwick
ค. Elton Mayo                                                  ง. Mary Eollette
จ. ข้อ ก. และ ข.
ตอบ ง. Mary Eollette

10.   POSDCORB เกี่ยวกับข้อใดมากที่สุด?
ก. กระบวนการวางแผน                                      ข. กระบวนการบริหาร
ค. กระบวนการวิจัย                                            ง. กระบวนการประเมินผลงาน
จ. กระบวนการติดตามผล
ตอบ ข. กระบวนการบริหาร

ถาม –ตอบ

การพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ

(Public Sector Management Quality Award : PMQA)*

1. การพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ คือ

ตอบ PMQA

2. การทำ PMQA คืออะไร

ตอบ การยกระดับการปฏิบัติงานขององค์กรให้สอดคล้องกับพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ.2546 และให้เกิดผลทางปฏิบัติในการพัฒนาองค์กรไปสู่ความเป็นเลิศ

3. วิธีปฏิบัติ ในการทำ PMQA อันดับแรกคืออะไร

ตอบ ต้องหาลักษณะสำคัญขององค์กร สภาพแวดล้อมความสัมพันธ์ และความท้าทายขององค์กรให้ได้ บุคลากรในองค์กรต้องมีความเข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน หมายถึงต้องรู้พันธกิจ หน้าที่ วิสัยทัศน์ความสัมพันธ์กับองค์กรอื่นๆ ว่ามีอะไรบ้าง สัมพันธ์กันด้วยวิธีไหน

อะไรบ้างคือความท้าทายขององค์กรที่จะฝ่าไปให้ได้

4. เกณฑ์ปฏิบัติที่จะทำให้องค์กรเป็นเลิศมีจำนวนเท่าใด อะไรบ้าง

ตอบ 7 เกณฑ์ ได้แก่

เกณฑ์ที่ 1 การนำองค์กร

เกณฑ์ที่ 2 การวางแผนเชิงยุทธศาสตร์และกลยุทธ์

เกณฑ์ที่ 3 การให้ความสำคัญกับผู้รับบริการและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

เกณฑ์ที่ 4 การวัด การวิเคราะห์ และการจัดการความรู้

เกณฑ์ที่ 5 การมุ่งเน้นทรัพยากรบุคคล

เกณฑ์ที่ 6 การจัดการกระบวนการ

เกณฑ์ที่ 7 ผลลัพธ์การดำเนินการ

5. PMQA แบ่งออกเป็นกี่ส่วนหลัก อะไรบ้าง

ตอบ 2 ส่วนหลัก คือ

1) ลักษณะสำคัญขององค์กร เป็นการวิเคราะห์องค์กรทั้ง 7 กระบวนงาน

2) เกณฑ์ทั้ง 7 เป็นเกณฑ์กลาง แต่ละองค์กรไม่จำเป็นต้องใช้เหมือนกันหมด สามารถนำไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับลักษณะขององค์กรโดยมีกรอบทิศทางเดียวกัน ตัวอย่าง ถ้าองค์กรไม่ค่อยมีส่วนสัมพันธ์กับผู้รับบริการมากนัก ในเกณฑ์ที่ 3 เรื่องการให้ความสำคัญกับผู้รับบริการและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย จะมีบทบาทน้อยลง หรือถ้าองค์กรเน้นการวางยุทธศาสตร์ ก็ให้มุ่งเน้นเกณฑ์ที่ 2 เรื่องการวางแผนเชิงยุทธศาสตร์และกลยุทธ์เป็นต้น

6. เกณฑ์ทั้ง 7 แบ่งได้เป็นกี่ส่วน

ตอบ 2 ส่วน คือ

(1) ส่วนกระบวนงาน ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมขององค์กร ประกอบด้วย เกณฑ์ที่ 1 - 6 และ

(2) ส่วนผลลัพธ์ อยู่ในเกณฑ์ที่ 7

7. หลักสำคัญของการพัฒนา PMQA คืออะไร

ตอบ แนวทางของแต่ละกรมจะทำอย่างไรก็ได้ แต่เป้าหมายสุดท้ายต้องเป็นองค์กรที่มีความเป็นเลิศ และมีคุณภาพ

8. การตอบคำถาม 7 หมวด เพื่อสร้างองค์กรให้เป็นเลิศ มีข้อดีอย่างไร

ตอบ ทำให้คนในองค์กรมีความเข้าใจตรงกัน และเข้าใจองค์กรได้เป็นอย่างดีว่าองค์กรให้ความสำคัญกับอะไร อีกทั้งช่วยในการระบุข้อมูลสำคัญที่อาจขาดหายไปทำให้เกิดการมุ่งเน้นที่ผลสำเร็จของกระบวนการ และผลลัพธ์การดำเนินการซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่เหมาะสมในการตรวจประเมินองค์กรด้วยตนเอง หากพบว่าเรื่องใดมีข้อมูลไม่เพียงพอหรือข้อมูลขัดแย้งกัน องค์กรสามารถนำเรื่องนั้นไปจัดทำแผนปฏิบัติการ เพื่อแก้ไขปรับปรุงโดยยังไม่ต้องประเมินตนเองต่อไป

9. การถามตอบ “ลักษณะสำคัญขององค์กร” คำถามมี 2 ข้อใหญ่คืออะไรบ้าง

ตอบ (1) ลักษณะองค์กร (2) ความท้าทายต่อองค์กร รวม 15 คำถาม

10. “ลักษณะองค์กร” แบ่งออกเป็นกี่หมวด อะไรบ้าง

ตอบ 2 หมวด ได้แก่

(1) ลักษณะพื้นฐานของส่วนราชการ มี 5 คำถาม และ

(2) ความสัมพันธ์ภายในและภายนอกองค์กรมี 3 คำถาม

#รวมข้อสอบที่ออกบ่อยๆ รวบรวมโดยอาจารย์ของสถาบัน
#เจาะลึกครอบคุมตรงประเด็น เนื้อหาสาระสำคัญ ข่าวสารทันโลก
#จำหน่ายแนวข้อสอบมานานกว่า 10 ปี การรันตีจากผู้สอบติดมากมาย
#รวมหนังสือหรือไฟล์ เหมาะกับผู้ที่ไม่มีเวลาไปนั่งติว
แนวข้อสอบมี 2 รูปแบบ

1.แบบที่ 1 รอรับได้เลย ราคาเพียง 399 บาท (รอรับ 1-2 ชม หลังโอน)

2.แบบที่ 2 หนังสือ **ฟรี MP3** ราคา 699 บาท (ส่งฟรีขนส่งเอกชน)

ติดต่อสอบถาม/สั่งซื้อแนวข้อสอบ

โทร: 082-8551615 (คุณปาณิสรา)